วันศุกร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2558

การปลูกและดูแลรักษาทานตะวัน

การปลูกและดูแลรักษา
ทานตะวันเป็นไม้กลางแจ้งต้องการแสงแดดจัด ขึ้นได้ดีในดินร่วนปนทราย ระบายน้ำได้ดี ต้องการน้ำปานกลาง 

ฤดูปลูก
การปลูกทานตะวันควรปลูกปลายฤดูฝน ซึ่งขึ้นอยู่กับสภาพพื้นที่ด้วย  คือ ในพื้นที่ที่เป็นดินร่วนเหนียวสีดำ  ควรปลูกระหว่างเดือน กันยายน-พฤศจิกายน  และในพื้นที่ที่เป็นดินร่วนหรือดินร่วนทราย  ควรปลูกระหว่างเดือน ปลายสิงหาคมตุลาคม ในกรณีพื้นที่ที่สามารถให้น้ำได้ สามารถปลูกในฤดูแล้งได้อีกครั้งหนึ่ง โดยปลูกระหว่างเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์

การเตรียมดิน
การเตรียมดินมีวัตถุประสงค์เพื่อทำให้ผิวดินร่วนซุย  อากาศถ่ายเทได้สะดวก  และสามารถเก็บรักษาความชื้นได้ดีรวมทั้งเป็นการกำจัดวัชพืชในขั้นต้นอีกด้วย การไถเตรียมดิน  ควรทำเมื่อดินมีความชื้นเพียงพอ  ก่อนไถควรดายหญ้าให้เตียน หว่านปุ๋ยคอกอัตรา 1.5 กิโลกรัม/ไร่ แล้วทำการไถดะให้ลึกที่สุด หลังจากนั้นจึงทำการไถแปรให้พื้นที่เรียบสม่ำเสมอตลอดแปลง  ถ้าแปลงเป็นที่ลุ่มน้ำขังควรทำร่องระบายน้ำรอบแปลง












วิธีการปลูก
การปลูกทานตะวันให้ได้ผลดี  ควรใช้เมล็ดพันธุ์ที่ดี และมีเปอร์เซ็นต์ความงอกสูง เพื่อให้ได้ต้นทานตะวันที่แข็งแรงสมบูรณ์และมีจำนวนต้นต่อไร่ที่เหมาะสม โดยปลูกทานตะวันขณะที่มีความชื้นในดินพอดี หยอดเมล็ดพันธุ์หลุมละ 2-3 เมล็ด  ระยะระหว่างหลุม40 เซนติเมตร  ระยะระหว่างร่องหรือแถว75 เซนติเมตร  กลบดินหนาประมาณ 3-5 เซนติเมตร ให้แน่นพอสมควร  หลังจากปลูกได้แล้ว 5-10 วัน  ให้ตรวจดูความงอก  จำนวนต้นต่อไร่  รวมทั้งการปลูกซ่อม หลังจากนั้น 5-8 วัน  ทำการถอนแยกให้เหลือ 1 ต้น/หลุม โดยเลือกถอนต้นที่มีขนาดเล็กหรือผิดปกติกว่าต้นอื่น การปลูกในระยะดังกล่าว จะใช้เมล็ดพันธุ์ทานตะวันเพียง 0.8 กิโลกรัม/ไร่  และจะได้ต้นทานตะวันประมาณ 6,400-8,500  ต้น/ไร่

การใส่ปุ๋ย
ก่อนหยอดเมล็ดควรใส่ปุ๋ยรองพื้นสูตร 16-20-0 หรือ 25-7-7 อัตรา 20-25 กิโลกรัม/ไร่ อาจจะใช้ผงบอแร็กซ์ หรือโบรอน (B) อัตรา 2 กิโลกรัม/ไร่ ในพื้นที่ที่เป็นดินร่วนทรายโดยหว่านให้ทั่วแปลงหรือผสมพร้อมปุ๋ยรองพื้น  เมื่อทานตะวันอายุ 25-30 วัน  ให้ทำรุ่นพูนโคนและกำจัดวัชพืชพร้อมทั้งใส่ปุ๋ยยูเรีย 46-0-0  อัตรา 15-20  กิโลกรัม/ไร่  ห่างจากโคนต้น 20 เซนติเมตร (ระวังอย่าให้สัมผัสโดนใบ) เสร็จแล้วกลบปุ๋ยพูนโคนตามแถว



การกำจัดวัชพืช
ให้ใช้ยาคุมหญ้าประเภทอลาคลอร์  เมตลาคลอร์  อัตรา  300-400 ซีซี./ไร่  หรือ  7-8  ช้อนแกงต่อน้ำ 18-20 ลิตร  (ในกรณีใช้ถังโยกหรือมือฉีด) ฉีดพ่นหลังหยอดเมล็ดก่อนที่เมล็ดจะงอกหรือใช้แรงงานจากเครื่องจักร หรือคนทำรุ่นตามความจำเป็น

ข้อควรระวัง  ห้ามใช้ยาอาทราซีน.กับทานตะวันโดยเด็ดขาด


การเก็บเกี่ยว
เมื่อทานตะวันมีอายุได้  95-120  วัน  จานดอกจะเริ่มเปลี่ยนสีเหลืองเป็นสีน้ำตาล  ให้เก็บเกี่ยวและตากแดดให้แห้ง 1-2 แดดก่อน แล้วจึงนวดโดยใช้เครื่องนวดถั่วเหลืองหรือถั่วลิสง หรือใช้เครื่องสีข้าวฟ่างก็ได้แล้วแต่ความสะดวก ควรทำความสะอาดเมล็ดให้ดีและเก็บไว้ในยุ้งฉางที่ป้องกันแดด กันฝน  และแมลงศัตรูได้  ความชื้นของเมล็ดที่จะเก็บไว้ควรไม่เกิน 10%

โรคและแมลงศัตรูทานตะวัน
ในประเทศไทย ปัญหาโรคและแมลงศัตรูของทานตะวันพบน้อยแต่บางครั้งอาจมีปัญหาต่างๆ ดังนี้
ปัญหาเรื่องเมล็ดเน่าเสียหาย  เนื่องจากทานตะวันดอกค่อนข้างใหญ่  เมื่อเวลาเมล็ดแก่ จานดอกจะห้อยลง  และด้านหลังของจานดอกเป็นแอ่งเหมือนกระทะก้นแบน  เมื่อมีฝนตก น้ำฝนจะขังอยู่ในที่ดังกล่าว  ทำให้เกิดการเน่าขึ้นเป็นส่วนมากและเมล็ดเสียหาย  ป้องกันโดยการปลูกทานตะวันปลายฤดูฝน ตั้งแต่เดือนสิงหาคม-มกราคม  โดยที่สามารถเก็บเกี่ยวได้ในเดือนพฤศจิกายน, ธันวาคม, มกราคม, กุมภาพันธ์  และมีนาคม  และช่วงระยะเวลาเก็บเกี่ยวมีฝนน้อยทำให้ได้เมล็ดทานตะวันมีคุณภาพดี

แมลงที่สำคัญ  ได้แก่
ผีเสื้อกลางคืน > มักเข้าทำลายเมื่อทานตะวันดอกบาน ป้องกันโดยใช้ยาฟูราดาน F4, ไพดริน
เพลี้ยจักจั่น แมลงหวี่ขาว และแมลงมวนเขียวข้าว > มักเข้าทำลายเมื่อทานตะวันอายุได้ 40-45  วัน  ป้องกันโดยใช้ยาอะโซดริน อัตรา 15 ซี.ซี./ไร่  น้ำ 20 ลิตร หรือใช้เซพวิน 3 ช้อนแกง/ไร่  น้ำ  20 ลิตร  ฉีดพ่น
การทำลายของนก > ป้องกันได้โดยการปลูกทานตะวันในฤดูฝน เนื่องจากอาหารในธรรมชาติของนกมีมาก  จึงไม่ทำลายทานตะวัน 

ที่มา http://alangcity.blogspot.com/2012/12/blog-post_29.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น